รวม 10 คำถาม ที่พบบ่อยในการสร้างบ้าน ยื่นกู้ยากไหม ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ พร้อมคำตอบให้หายสงสัย?
คุณกำลังคิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเองใช่ไหม? แต่พอเริ่มหาข้อมูลจริงๆ ก็มักจะเต็มไปด้วยคำถามมากมาย ตั้งแต่ จะกู้ผ่านไหม ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ ไปจนถึง เลือกบริษัทสร้างบ้านยังไงไม่ให้พลาด หลายคำตอบที่หาตามอินเทอร์เน็ตอาจดูเป็นภาษาธนาคารจนงงไปหมด หรือบางทีก็ไม่ตรงกับสถานการณ์จริงของเราเลย และนี่คือเหตุผลที่ บริษัท รับสร้างบ้าน ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ ศูนย์รับสร้างบ้านครบวงจรอันดับ 1 ในภาคอีสาน อยากมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อให้คนที่กำลังวางแผนสร้างบ้านได้มีข้อมูลจริง ครบ และมั่นใจขึ้นก่อนตัดสินใจ
คำถามที่พบบ่อยในการสร้างบ้าน พร้อมคำตอบให้หายสงสัย
ดังนั้น บริษัท รับสร้างบ้าน ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ ศูนย์รับสร้างบ้านครบวงจรอันดับหนึ่งในภาคอีสาน อยากจะช่วยเคลียร์ทุกข้อสงสัยให้คุณแบบเข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องใช้ศัพท์เทคนิค ไม่ต้องเดาเองให้เครียด เพราะเราเชื่อว่าการสร้างบ้านควรเริ่มต้นจาก ความมั่นใจ ก่อนเป็นอันดับแรก ในบทความนี้เลยรวมเอา คำถามที่เจอบ่อยที่สุดจากลูกค้า มาพร้อมคำตอบที่ตรงไปตรงมา ให้คุณอ่านแล้วเห็นภาพชัดทันที เริ่มเลยกับ 10 คำถามยอดฮิตที่หลายคนสงสัย แต่ไม่ค่อยมีใครตอบชัดเจน
การยื่นกู้สร้างบ้านยากไหม?
โดยทั่วไป การกู้สร้างบ้านจะต่างจากการกู้ซื้อบ้านสำเร็จรูปเล็กน้อย เพราะธนาคารจะอนุมัติวงเงินเป็นงวดๆ ตามความคืบหน้าของการก่อสร้าง ไม่ได้ให้ก้อนเดียวทีเดียวทั้งหมด ซึ่งตรงนี้ บริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์อย่าง ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ จะช่วยประสานงานและจัดทำเอกสารประกอบการยื่นกู้ให้คุณอย่างครบถ้วน ลดความกังวลไปได้เยอะ ทำให้ขั้นตอนที่หลายคนคิดว่ายาก กลายเป็นเรื่องที่เบาสบายและมั่นใจได้มากขึ้นครับ
ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะกู้ได้?
จริงๆ แล้วธนาคารไม่ได้กำหนดตายตัวว่าต้องมีรายได้กี่บาทต่อเดือน แต่จะพิจารณาจาก ความสามารถในการผ่อนชำระ เป็นหลัก โดยทั่วไปแล้ว ค่างวดผ่อนบ้านควรอยู่ที่ประมาณ 30–40% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อไม่ให้กระทบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ธนาคารจะมองว่าคุณสามารถผ่อนค่างวดบ้านได้ราว 9,000 ถึง 12,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเมื่อคำนวณระยะเวลากู้ 25 ถึง 30 ปี จะได้วงเงินกู้ประมาณ 2 ถึง 3 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร และถ้าคุณมีผู้กู้ร่วม เช่น คู่สมรสหรือครอบครัว วงเงินกู้ก็อาจสูงขึ้นตามรายได้รวมด้วยเช่นกัน
บ้านหนึ่งหลัง ธนาคารให้กู้ได้กี่เปอร์เซ็นต์?
ส่วนใหญ่ธนาคารจะปล่อยกู้ได้ประมาณ 80 ถึง 100% ของราคาประเมินบ้านและที่ดินรวมกัน แต่มีเงื่อนไขที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษครับ ถ้าเป็น บ้านพร้อมที่ดินจากโครงการจัดสรร มักจะกู้ได้สูงสุดถึง 100% ของราคาประเมิน เนื่องจากธนาคารมองว่ามีความมั่นคงและความเสี่ยงต่ำ แต่ถ้าเป็นการ ปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง วงเงินกู้จะขึ้นอยู่กับราคาประเมินที่ดินบวกค่าก่อสร้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 80 ถึง 90% ของมูลค่ารวม ยกตัวอย่างเช่น หากที่ดินคุณมีมูลค่า 1 ล้านบาท และค่าก่อสร้างบ้านอยู่ที่ 2 ล้านบาท รวมแล้วราคาประเมินคือ 3 ล้านบาท ธนาคารอาจปล่อยกู้ประมาณ 2.4 ถึง 2.7 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับเครดิต รายได้ และนโยบายของแต่ละธนาคารครับ
ถ้ายังไม่มีที่ดิน กู้สร้างบ้านได้ไหม?
เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้มากครับ เพราะบางครั้งเราอยากมีบ้าน แต่ยังไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง คำตอบคือ สามารถกู้ได้ครับ แต่เงื่อนไขจะต่างออกไปเล็กน้อย ถ้ายังไม่มีที่ดิน ธนาคารจะให้กู้ในรูปแบบ สินเชื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างบ้าน ซึ่งธนาคารจะประเมินทั้ง ราคาที่ดิน บวกกับ ค่าก่อสร้างบ้าน รวมกัน แล้วปล่อยกู้ในวงเงินประมาณ 80ถึง100% ของราคาประเมิน ยกตัวอย่างเช่น คุณเจอที่ดินราคา 800,000 บาท และต้องการสร้างบ้านงบประมาณ 2,000,000 บาท รวมแล้ว 2,800,000 บาท ธนาคารอาจปล่อยกู้ได้ประมาณ 2.2 ถึง 2.5 ล้านบาท ที่เหลือคุณอาจต้องมีเงินสำรองบางส่วนสำหรับดาวน์ที่ดินหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมโอน ภาษี ฯลฯ
ระหว่างบ้านกำลังก่อสร้าง ต้องผ่อนเลยหรือเปล่า?
คำตอบก็คือ ใช่ครับ แต่ไม่ต้องตกใจ เพราะช่วงที่บ้านกำลังก่อสร้าง ธนาคารจะยังไม่ให้กู้เต็มวงเงินทีเดียว แต่จะทยอยจ่ายให้ตามงวดงาน เช่น ฐานราก เสา คาน หลังคา และงานตกแต่ง ซึ่งคุณเองก็จะเริ่มผ่อนกับธนาคารตามจำนวนเงินที่เบิกไปแล้วนั่นแหละ ดังนั้น ช่วงแรกๆ ค่างวดผ่อนจะยังไม่เยอะมาก เพราะบ้านยังสร้างไม่เสร็จและยังเบิกเงินไม่ครบ ยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนคุณสั่งข้าวจานใหญ่ แต่ร้านค่อยๆ เสิร์ฟทีละอย่าง คุณก็จ่ายตามที่ได้กินก่อน ไม่ได้โดนคิดเต็มทั้งโต๊ะตั้งแต่แรก บ้านก็เหมือนกันครับ ธนาคารคิดผ่อนตามที่ใช้จริง
กว่าจะรู้ผลกู้ใช้เวลานานแค่ไหน?
คำถามนี้คือสิ่งที่ทุกคนลุ้นที่สุดเวลายื่นกู้บ้านเลยครับ เพราะหลังส่งเอกสารไปแล้ว หลายคนก็จะนั่งนับวัน รู้สึกเหมือนรอผลสอบ ตื่นเต้น แอบกังวล ว่าธนาคารจะอนุมัติไหม โดยทั่วไปแล้ว การพิจารณาสินเชื่อบ้านใช้เวลาประมาณ 7 ถึง 14 วันทำการ ถ้าเอกสารครบถ้วนและผู้กู้คุณสมบัติชัดเจน เช่น รายได้มั่นคง ไม่มีหนี้ค้างชำระ เครดิตบูโรสะอาด ส่วนใหญ่ก็ไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็รู้ผลแล้วครับ แต่ถ้าเอกสารมีปัญหา หรือธนาคารต้องตรวจสอบละเอียด อาจยืดไปเป็น 1 เดือนก็มี
สิ่งที่ทำให้การกู้เร็วขึ้นก็คือ การเตรียมเอกสารครบตั้งแต่แรก เช่น สลิปเงินเดือน 6 เดือนย้อนหลัง Statement สำเนาโฉนดที่ดิน แบบบ้าน และสัญญาว่าจ้างกับบริษัทรับสร้างบ้านที่ชัดเจน ซึ่งตรงนี้เองครับที่ถ้าเลือกสร้างบ้านกับ ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ จะได้เปรียบมาก เพราะทีมงานเขาช่วยเตรียมเอกสารก่อสร้างครบชุด ส่งต่อให้ธนาคารตรวจสอบได้เร็ว ไม่เสียเวลาวิ่งไปวิ่งมาหลายรอบ พูดง่ายๆ คือ คุณแค่ยื่น ธนาคารแค่ตรวจ ไม่ต้องเหนื่อยจัดการเองทุกอย่าง และโอกาสอนุมัติก็สูงกว่าเพราะโครงการมีความน่าเชื่อถืออยู่แล้วครับ
ถ้ามีหนี้บัตรเครดิต จะกู้ได้ไหม?
คำตอบคือ ยังสามารถกู้ได้ครับ แต่ธนาคารจะพิจารณาภาระหนี้รวมของคุณด้วย โดยทั่วไปธนาคารจะกำหนดว่า ภาระหนี้ทั้งหมดไม่ควรเกิน 40% ของรายได้สุทธิ ถ้าภาระหนี้เกินกว่านี้ อาจทำให้วงเงินกู้ลดลง หรือบางกรณีอาจไม่อนุมัติ แต่เดี๋ยวก่อนครับ เคล็ดลับสำคัญคือ ถ้าต้องการวงเงินกู้สูงและอนุมัติง่ายขึ้น ควรลดภาระหนี้บัตรเครดิตหรือหนี้สินอื่นๆ ให้เหลือให้น้อยที่สุดก่อนยื่นกู้ และเลือกสร้างบ้านกับ บริษัทรับสร้างบ้านที่มีชื่อเสียงและเอกสารครบถ้วน อย่าง ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ เพราะทีมงานจะช่วยจัดทำเอกสารประกอบการยื่นกู้ให้ชัดเจน ทำให้ธนาคารมั่นใจและโอกาสอนุมัติสูงขึ้นครับ
การสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน ช่วยเรื่องยื่นกู้ได้จริงไหม?
ช่วยได้จริงครับ เพราะบริษัทรับสร้างบ้านที่มีประสบการณ์ จะเข้าใจขั้นตอนและเอกสารที่ธนาคารต้องการตั้งแต่แรก ซึ่งถ้าส่งเอกสารไม่ครบหรือไม่ชัดเจน ธนาคารอาจใช้เวลานานหรืออาจไม่อนุมัติ นอกจากนี้ การสร้างบ้านกับบริษัทที่มีชื่อเสียง บริษัท ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ จะช่วยให้ธนาคารมั่นใจได้ว่า บ้านจะถูกสร้างตามแบบและงบประมาณจริง ลดความเสี่ยงเรื่องงบบานปลาย หรือบ้านสร้างไม่เสร็จตามกำหนด ทำให้ขั้นตอนยื่นกู้ราบรื่นและผ่านง่ายขึ้น หรือก็คือ บริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพจะเป็น ตัวช่วยให้คุณผ่านขั้นตอนธนาคารได้เร็วและมั่นใจ แทนที่คุณต้องวิ่งไปวิ่งมาเตรียมเอกสารเองหมดทุกขั้นตอน
ดอกเบี้ยกู้สร้างบ้านสูงกว่าซื้อบ้านจัดสรรหรือไม่?
คำตอบคือ โดยทั่วไปไม่ต่างกันมากครับ ธนาคารส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยใกล้เคียงกันทั้งสองประเภท เพราะทั้งการกู้สร้างบ้านและซื้อบ้านจัดสรรถือเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ รูปแบบการเบิกเงิน แค่นั้นครับ
- กู้ซื้อบ้านจัดสรร ธนาคารจะโอนเงินก้อนให้เจ้าของบ้านหรือโครงการทั้งหมดเลย
- กู้สร้างบ้าน ธนาคารจะเบิกเงินเป็นงวดๆ ตามความคืบหน้าของงานก่อสร้าง ทำให้ดอกเบี้ยเริ่มคิดตามยอดที่เบิกจริง ซึ่งบางครั้งในช่วงแรกอาจรู้สึกว่าผ่อนน้อยกว่า แต่รวมทั้งหมดแล้วดอกเบี้ยเฉลี่ยก็ใกล้เคียงกัน
เคล็ดลับคือ ควรเปรียบเทียบ โปรโมชั่นดอกเบี้ยของหลายธนาคาร เพราะบางธนาคารมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการกู้สร้างบ้าน
ถ้าธนาคารไม่ปล่อยกู้เต็ม ต้องเตรียมเงินกี่เปอร์เซ็นต์?
ธนาคารส่วนใหญ่จะปล่อยกู้ 80 ถึง 90% ของมูลค่าบ้านหรือราคาประเมินรวมที่ดินและค่าก่อสร้าง ซึ่งหมายความว่าคุณอาจต้องเตรียมเงินส่วนต่าง 10 ถึง 20% ของราคาบ้านเอง รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมประเมิน ค่าธรรมเนียมจดจำนอง ภาษี และค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสร้างบ้านรวมที่ดินราคา 3 ล้านบาท และธนาคารอนุมัติวงเงินกู้ 80% คุณต้องเตรียมเงินส่วนตัว ประมาณ 600,000 บาท เพื่อเติมเต็มส่วนต่าง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ จะขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร
ไขข้อสงสัย บริษัทก่อสร้างบ้าน ให้คำปรึกษาพร้อมยื่นกู้ธนาคาร ให้หรือไม่?
หากคุณกำลังวางแผนสร้างบ้านกับ บริษัท รับสร้างบ้าน ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ สิ่งที่หลายคนสบายใจได้คือ บริษัทไม่ได้ดูแลเฉพาะเรื่องงานออกแบบและก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังมีบริการครบวงจรด้านการเงิน โดยเฉพาะ การให้คำปรึกษาสินเชื่อบ้าน และช่วยยื่นกู้กับธนาคารให้แบบ 100% ทีมงานจะช่วยตรวจสอบคุณสมบัติ วางแผนวงเงินกู้ ระยะเวลาผ่อน รวมถึงแนะนำธนาคารที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าสามารถกู้ได้อย่างมั่นใจและตรงกับความต้องการ ลูกค้าไม่ต้องวิ่งเรื่องเอกสารหรือเสียเวลาเอง บริษัทมีทีมงานคอยประสานงานกับธนาคารโดยตรง ทำให้กระบวนการราบรื่นและเพิ่มโอกาสในการอนุมัติ เราได้เขียนบทความ ไขข้อสงสัย บริษัทก่อสร้างบ้าน ให้คำปรึกษาพร้อมยื่นกู้ธนาคาร ให้หรือไม่? ที่คุณอาจสนใจ
บริษัท ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ รับสร้างบ้านอันดับ 1 ในภาคอีสาน เลือกใช้ uPVC วัสดุคุณภาพ จากบ้านอุบล กับบ้านทุกหลัง
ทำไมบ้านที่สร้างขึ้นมาใหม่ ถึงมีบางบ้านดูดีอยู่ได้หลายปีโดยแทบไม่ต้องซ่อมบำรุง ส่วนบางบ้านก็ผุกร่อน ขึ้นสนิม หรือทนความร้อนไม่ไหว? จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ดีไซน์หรือการก่อสร้างเท่านั้น แต่ วัสดุที่ใช้เป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะวัสดุที่อยู่บริเวณประตู หน้าต่าง หรือกรอบบ้าน เพราะมันสัมผัสกับแสงแดด ความร้อน และฝนโดยตรง
และนี่คือเหตุผลที่ บริษัท รับเหมาก่อสร้าง อย่างบริษัท ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ เลือกใช้ uPVC จากบ้านอุบล สำหรับบ้านทุกหลัง ไม่ใช่แค่เพราะมันสวยและทันสมัย แต่เพราะเราเชื่อว่าความทนทาน ความปลอดภัย และการประหยัดพลังงานคือสิ่งที่เจ้าของบ้านควรได้ตั้งแต่วันแรกที่ย้ายเข้าอยู่ วันนี้เรามาดูกันครับว่า uPVC จากบ้านอุบล ทำไมถึงตอบโจทย์บ้านในภาคอีสานได้ครบทุกมิติ
- ไม่ติดไฟ เพิ่มความปลอดภัยให้บ้าน uPVC ของบ้านอุบลเป็นวัสดุที่ไม่ติดไฟ ทำให้ลดความเสี่ยงจากอัคคีภัย ช่วยให้คุณและครอบครัวอุ่นใจทุกครั้งที่อยู่บ้าน
- รักษาอุณหภูมิและกันความร้อนได้ดี บ้านในภาคอีสานมีแดดแรงและอากาศร้อน การใช้ uPVC ช่วยลดการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้บ้านเย็นสบาย และช่วยประหยัดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศ
- แข็งแรง มั่นคง เราเลือก uPVC หนา 2.5 มม. จากแบรนด์ดัง CONCH และ Conxing รับประกันความทนทาน สามารถทนแรงลม แรงกด และการใช้งานประจำวันได้อย่างมั่นใจ
- ระบบล็อคทันสมัย บ้านทุกหลังมาพร้อม Multipoint lock และ Single lock พร้อมฮาร์ดแวร์ครบชุด ยกระดับความปลอดภัย ทำให้คุณและครอบครัวสบายใจมากขึ้น
วัสดุที่เลือกใช้อย่างละเอียดและใส่ใจ จะเป็นตัวกำหนดความแข็งแรง ความปลอดภัย และความคุ้มค่าของบ้านไปอีกหลายปี และนี่คือเหตุผลที่ รับสร้างบ้าน ขอนแก่น ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ เลือกใช้ uPVC จากบ้านอุบล สำหรับทุกบ้าน เพื่อให้คุณได้บ้านที่สวย แข็งแรง และปลอดภัยตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาอยู่
สรุป รวม 10 คำถาม ที่พบบ่อยในการสร้างบ้าน ยื่นกู้ยากไหม ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ พร้อมคำตอบให้หายสงสัย?
เรื่องเหล่านี้ถ้าไม่รู้ ก็ทำให้เครียดและลังเล แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเตรียมตัวให้พร้อม และเข้าใจขั้นตอนง่ายๆ บ้านในฝันของคุณก็ไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้าเรามีข้อมูลที่พร้อมครบ และเลือกสร้างกับบริษัทที่เชื่อถือได้ อย่างบริษัท ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ คุณจะได้ทั้ง บ้านที่สวย ตรงใจ แข็งแรง และปลอดภัย ตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าบ้านไปจนถึงหลายปีข้างหน้า เพราะบ้านไม่ใช่แค่กำแพงและหลังคา แต่คือ ความสบายใจและความมั่นคงของครอบครัวคุณ