วิธีตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่ เช็คให้ดีก่อนจ่ายเงินงวดสุดท้าย

การตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม เพื่อให้แน่ใจว่างานก่อสร้างเป็นไปตามสัญญาแบบบ้าน และมีคุณภาพมาตรฐานที่เหมาะสม ซึ่งการตรวจรับไม่ใช่แค่ดูว่างานเสร็จครบหรือไม่เท่านั้น แต่ต้องตรวจในรายละเอียดเชิงลึกของทั้งโครงสร้าง ระบบงานต่างๆ และงานตกแต่งภายในด้วย โดยควรมีรายการตรวจสอบ (Checklist) ที่ชัดเจน และหากเป็นไปได้ควรมีผู้เชี่ยวชาญอย่างวิศวกรหรืออินสเปคเตอร์ร่วมตรวจด้วย นอกจากนี้การตรวจงานเก็บรายละเอียด เช่น งานบัว งานฝ้า พื้นไม้หรือกระเบื้อง ต้องไม่มีรอยแตก บิ่น หรือสีเพี้ยน พร้อมตรวจสอบความสะอาดของพื้นที่โดยรวม หากพบปัญหาใดๆ ต้องให้บริษัทรับผิดชอบแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนเซ็นรับงานหรือจ่ายเงินงวดสุดท้าย โดยอาจระบุในเอกสารรับมอบงานว่ามีรายการที่ต้องแก้ไข เพื่อเป็นหลักฐานหากบริษัทไม่ดำเนินการตามกำหนด ก็สามารถใช้เอกสารนี้อ้างอิงเพื่อดำเนินการตามสิทธิ์ทางกฎหมายได้ต่อไป บทความนี้จะพามาดูวิธีตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่ เช็คให้ดีก่อนจ่ายเงินงวดสุดท้าย
ตรวจงานโครงสร้างและพื้นฐานระบบ
การตรวจงานโครงสร้างเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการรับมอบบ้าน เพราะเป็นรากฐานของความปลอดภัยในระยะยาว สิ่งที่ควรตรวจคือเสา คาน พื้น และผนังต้องไม่มีรอยร้าว รอยแยก หรือการทรุดตัวที่ผิดปกติ ผนังควรฉาบเรียบ ไม่มีคลื่นหรือบิดเบี้ยว หากมีการแตกร้าวที่มุมประตู–หน้าต่างหรือแนวทะแยง ต้องพิจารณาเป็นพิเศษเพราะอาจเป็นสัญญาณของโครงสร้างผิดปกติ ควรใช้เครื่องมือตรวจระดับ เช่น ลูกดิ่งหรือเลเซอร์วัดแนวดิ่งเพื่อตรวจสอบความตรงของผนังและเสา นอกจากนี้พื้นบ้านเป็นอีกจุดที่ต้องใส่ใจ โดยควรเดินตรวจทุกห้องว่ามีความเรียบเสมอกันหรือไม่ ไม่มีเสียงยวบหรือกระเบื้องลั่นเวลาเดิน กระเบื้องต้องปูแน่น เรียงตัวเป็นระเบียบ ไม่มีรอยแตกร้าวหรือเส้นยาแนวหลุดร่อน ส่วนโครงสร้างหลังคาต้องดูว่าปิดครอบมิดชิด ไม่มีช่องเปิดหรือรั่วซึม ตรวจโครงหลังคาจากช่องฝ้าเพดานว่ามีสนิม รั่ว หรือการใช้งานวัสดุไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ ต่อไปนี้คือวิธีตรวจรับบ้านอย่างมืออาชีพ ที่ควรเช็กให้ครบถ้วน 2 ข้อ หลักๆ ดังนี้
1. โครงสร้างบ้าน (Structural Work)
โครงสร้างบ้านเป็นส่วนสำคัญที่สุดของงาน รับสร้างบ้าน เพราะหากมีข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและความทนทานของบ้านทั้งหลัง การตรวจสอบโครงสร้างควรเริ่มจากเสา คาน พื้น และผนัง ตรวจดูว่ามีรอยร้าว รอยแยก หรือจุดที่ทรุดตัวหรือไม่ รอยร้าวแนวยาวหรือเฉียงที่ผนัง โดยเฉพาะรอยที่เริ่มจากมุมวงกบประตูหน้าต่าง ถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่าอาจมีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องแก้ไขการตรวจโครงสร้างไม่ควรใช้แค่สายตา แต่ควรพิจารณาร่วมกับเอกสารแบบแปลนและสเปกวัสดุที่ระบุในสัญญาว่าสิ่งที่ก่อสร้างตรงตามแบบหรือไม่ หากไม่แน่ใจ ควรจ้างวิศวกรอิสระหรือผู้ตรวจบ้านมืออาชีพมาช่วยตรวจอีกครั้งก่อนเซ็นรับมอบบ้าน
2. ระบบไฟฟ้า (Electrical System) และ ระบบประปาและสุขาภิบาล (Plumbing & Drainage)
ระบบไฟฟ้าในบ้านต้องผ่านการตรวจอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานระยะยาว จุดแรกที่ควรตรวจคือแผงควบคุมไฟ (Load Center) หรือเมนเบรกเกอร์ ว่าติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม อ่านง่าย มีเบรกเกอร์ย่อยแยกตามฟังก์ชันของแต่ละห้อง พร้อมป้ายระบุชัดเจน ตรวจว่าทุกวงจรมีการเดินสายดิน และมีการติดตั้งเบรกเกอร์กันดูด โดยเฉพาะในพื้นที่เปียก อย่างห้องน้ำ ห้องครัว และเครื่องทำน้ำอุ่น ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว ในส่วนระบบประปาควรเริ่มจากการตรวจแรงดันน้ำ โดยเปิดก๊อกทุกจุดในบ้าน ทั้งห้องน้ำ ห้องครัว และพื้นที่ซักล้าง เพื่อดูว่ามีน้ำไหลแรงเพียงพอหรือไม่ และเปิดหลายจุดพร้อมกันได้โดยไม่มีการลดแรงดันมากเกินไป ตรวจสอบการรั่วซึมบริเวณท่อน้ำ ก๊อก และข้อต่อทุกจุด รวมถึงระบบน้ำร้อนหากมี ต้องติดตั้งปลอดภัย และมีวาล์วควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสม
ตรวจงานเก็บรายละเอียด (Finishing)
งานเก็บรายละเอียดถือเป็นภาพลักษณ์ของบ้านที่เจ้าของจะต้องอยู่กับมันทุกวัน จึงควรตรวจอย่างใจเย็น รอบคอบ และถ่ายภาพหรือจดบันทึกไว้ หากพบจุดที่ต้องแก้ไข ควรแจ้งผู้รับเหมาหรือบริษัททันที และไม่ควรเซ็นรับมอบงานจนกว่าทุกจุดจะเรียบร้อยสมบูรณ์ครบ 100% เพื่อให้บ้านที่รับมอบเป็นบ้านพร้อมอยู่จริงไม่ใช่บ้านต้องซ่อมต่อ ในภายหลัง เป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจรับบ้าน ที่เน้นความเรียบร้อย ความสวยงาม และคุณภาพของงานตกแต่งภายในและภายนอกทั้งหมด ซึ่งแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากไม่ตรวจให้รอบคอบ อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการแก้ไขภายหลังได้ ดังนั้นควรใช้สายตาและมือสัมผัสตรวจทุกจุดอย่างละเอียด หัวข้อต่อไปนี้คือเทคนิคเล็กๆน้อยๆ สามารถอธิบายได้ ดังนี้
1. เคล็ดลับมืออาชีพ-ตรวจงานเก็บรายละเอียด
- ใช้ไฟฉายส่องทุกมุม แสงไฟฉายช่วยให้เห็นรอยแตกลาย บริเวณที่ไม่เรียบ หรือรอยน้ำซึม ที่ตาเปล่าอาจมองไม่เห็นง่ายๆ โดยเฉพาะตามมุมผนัง ฝ้าเพดาน หรือบริเวณรอยต่อวัสดุต่างๆ
- ใช้มือสัมผัสผนังและพื้น ลูบมือให้ทั่วผนัง ฝ้า และพื้น เพื่อรู้สึกถึงความเรียบเนียน หากเจอความหยาบหรือคลื่น คือจุดที่ต้องแก้ไข
- เปิด-ปิดประตูและหน้าต่างซ้ำหลายๆ รอบ เพื่อเช็กความลื่นไหล ไม่มีเสียงฝืด หรือติดขัด รวมถึงดูว่าบานประตู-หน้าต่างไม่ได้เบี้ยวหรือหลวมจนเกินไป
- เทียบสีและลวดลายอย่างละเอียด ตรวจสอบว่าสีทาผนังหรือพื้นปูเรียบสม่ำเสมอ ไม่มีด่างหรือรอยหยด อีกทั้งกระเบื้องและวอลเปเปอร์ควรมีลายตรงและไม่เบี้ยว
- ทดสอบระบบน้ำและสุขภัณฑ์ทุกจุด เปิดน้ำทุกก๊อก ทิ้งน้ำในสุขภัณฑ์สักพักเพื่อตรวจสอบน้ำไหล น้ำทิ้งเร็ว และไม่มีน้ำรั่วซึม
- ใช้กระดาษติดที่รอยต่อ ลองใช้กระดาษบางแผ่นสอดที่ช่องประตูหรือหน้าต่าง แล้วปิดดูว่ากระดาษไม่หลุดง่ายเกินไป หรือบีบรัดเกินไป แสดงว่าช่องว่างพอดีหรือไม่
เช็กเอกสารและใบรับรองต่างๆ
ก่อนจะเซ็นรับมอบบ้านและจ่ายเงินงวดสุดท้าย การตรวจสอบเอกสารและใบรับรองต่างๆ ถือเป็นขั้นตอนสำคัญมาก เพราะแม้บ้านจะดูเสร็จเรียบร้อย แต่ถ้าเอกสารไม่ครบ อาจทำให้เกิดปัญหาทางกฎหมายหรือเสียสิทธิ์ในอนาคตได้ โดยเอกสารที่ควรเช็กควรสอดคล้องกับสัญญาว่าจ้างก่อสร้างและรายละเอียดที่ตกลงกันไว้ทุกประการ เพื่อความชัดเจนและป้องกันการเข้าใจคลาดเคลื่อน สุดท้าย อย่าลืมขอเอกสารส่งมอบบ้าน หรือเอกสารรับรองการตรวจรับงาน ซึ่งเป็นหลักฐานว่าเจ้าของบ้านได้รับบ้านเรียบร้อย โดยสามารถระบุข้อสังเกต หรือรายการที่ยังต้องแก้ไขไว้ในเอกสารนี้ได้ และควรแนบภาพถ่ายหรือรายงานประกอบการตรวจ เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากมีการเคลมงานในอนาคต การเช็กเอกสารเหล่านี้ให้ครบถ้วน ช่วยให้มั่นใจว่าไม่ใช่แค่บ้านสร้างเสร็จ ต่อไปนี้คือรายการเอกสารที่คุณควรขอ ตรวจสอบ และเก็บไว้ก่อนจ่ายเงินงวดสุดท้าย ดังนี้
1. ใบเซ็นรับรองตรวจรับบ้าน (Final Acceptance Form)
ใบเซ็นรับรองตรวจรับบ้าน ซึ่งเป็นเอกสารทางการที่ยืนยันว่าเจ้าของบ้านได้ทำการตรวจสอบบ้านเรียบร้อยแล้ว และยอมรับการส่งมอบบ้านจากบริษัทรับสร้างบ้านอย่างเป็นทางการ เอกสารฉบับนี้มักจะเป็นหมุดหมายสุดท้าย ของกระบวนการก่อสร้าง และมีผลผูกพันทั้งในเชิงกฎหมายและการรับประกันงาน ดังนั้นจึงต้องอ่านและตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนลงชื่อทุกครั้ง หากมีรายการที่ยังไม่เรียบร้อย ต้องลงบันทึกไว้ในใบตรวจรับให้ชัดเจน พร้อมระบุวันนัดหมายในการเข้ามาแก้ไขโดยบริษัท หากไม่มีการลงบันทึกไว้ ผู้รับเหมาหรือบริษัทอาจปฏิเสธความรับผิดชอบในภายหลัง
2. ใบรับประกันวัสดุ และ อุปกรณ์ต่างๆ
หลังการตรวจรับบ้านและเข้าอยู่อาศัย เจ้าของบ้านควรได้รับ ใบรับประกันวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ จากบริษัท รับสร้างบ้าน หรือผู้ รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ยืนยันสิทธิ์ในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนสินค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หากเกิดความชำรุดหรือเสียหายภายในระยะเวลาที่กำหนด การไม่มีเอกสารเหล่านี้ อาจทำให้ไม่สามารถเคลมได้แม้สินค้าจะยังอยู่ในช่วงรับประกันก็ตาม สุดท้าย ควรจัดเก็บใบรับประกันทั้งหมดในแฟ้มแยกเฉพาะ และบันทึกวันหมดอายุการรับประกันของแต่ละชิ้นเอาไว้ เพื่อวางแผนซ่อม-เช็กระบบก่อนหมดอายุ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและรักษาสิทธิ์ได้เต็มที่
บริษัท ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ จำกัด ตัวจริงรับสร้างบ้านอีสาน

บริษัท ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ จำกัด บริษัท รับสร้างบ้าน ขอนแก่น ที่เข้าใจบ้านของคุณจริงๆ การออกแบบบ้านไม่ใช่แค่การวางผังหรือเลือกวัสดุให้สวยเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจการใช้ชีวิตจริงของผู้อยู่อาศัย ซึ่งทีมงาน บริษัท ธนเสฏฐ์เจริญทรัพย์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการ รับสร้างบ้าน อุบลราชธานี และอีสาน เชี่ยวชาญในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ด้วยประสบการณ์ออกแบบและสร้างบ้านอย่างครบวงจร ทีมงานจะเริ่มจากการพูดคุยเพื่อเข้าใจความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และงบประมาณของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ก่อนถ่ายทอดออกมาเป็นแบบบ้านที่ลงตัว ทั้งในด้านความงามและการใช้งาน
สรุป วิธีตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่ เช็คให้ดีก่อนจ่ายเงินงวดสุดท้าย
สุดท้ายนี้ ก่อนจะเข้าอยู่บ้านใหม่ที่สร้างเสร็จเรียบร้อย เจ้าของบ้านควรตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่อย่างละเอียดทุกระบบ เพราะการเซ็นรับบ้านเท่ากับยอมรับว่างานเสร็จสมบูรณ์ และหากพบปัญหาภายหลัง อาจกลายเป็นภาระที่เจ้าของต้องแก้ไขเอง การตรวจรับบ้านจึงต้องทำอย่างรอบคอบ และควรทำก่อนการชำระเงินงวดสุดท้าย เพื่อให้มีอำนาจต่อรองในกรณีที่มีงานต้องแก้ไข เอกสารหรือหลักฐานสำคัญที่สุด ต้องระบุให้ชัดเจนว่าเจ้าของบ้านตรวจรับเมื่อใด รายการใดผ่านแล้ว รายการใดยังต้องแก้ไข พร้อมกำหนดเวลาที่บริษัทจะเข้ามาซ่อมแซมต่อ และอย่าลืมแนบภาพถ่ายหรือบันทึกประกอบ หากยังมีงานค้าง ไม่ควรเซ็นรับ 100% หรือจ่ายเงินงวดสุดท้ายทันที อาจตกลงให้หักบางส่วนไว้จนกว่างานจะเสร็จจริง และนี่คือวิธีตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่ เช็คให้ดีก่อนจ่ายเงินงวดสุดท้าย
FAQ เกี่ยวกับ วิธีตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่ เช็คให้ดีก่อนจ่ายเงินงวดสุดท้าย
ควรตรวจรับบ้านวันไหนดีที่สุด?
ควรตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่เมื่อการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100% ทั้งโครงสร้าง งานระบบ และงานตกแต่ง โดยควรเลือกเวลากลางวัน เพื่อใช้แสงธรรมชาติตรวจสอบความเรียบร้อยได้ชัดเจน และควรตรวจล่วงหน้าก่อนวันเข้าอยู่จริงอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
ต้องพาผู้เชี่ยวชาญมาด้วยไหม?
แนะนำอย่างมาก แม้เจ้าของบ้านจะสามารถตรวจเองเบื้องต้นได้ แต่หากมีผู้เชี่ยวชาญ เช่น วิศวกร หรือผู้ตรวจบ้านมืออาชีพมาตรวจรับบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านก่อนเข้าอยู่ร่วมตรวจด้วย จะช่วยมองเห็นจุดที่เรามักมองข้าม เช่น โครงสร้างเบี้ยว การเดินสายไฟไม่ปลอดภัย หรือระบบระบายน้ำที่ผิดมาตรฐาน
มีอะไรที่มักถูกลืมตรวจบ่อยที่สุด?
มักจะเป็นจุดเล็กๆ อย่างรอยแตกลายงาในห้องน้ำ มุมเพดานหลังติดฝ้า ระบบกันกลิ่นจากท่อน้ำทิ้ง การเปิด–ปิดหน้าต่างแต่ละบาน การยึดแน่นของบัวเชิงผนัง รวมถึงแรงดันน้ำเวลาเปิดหลายจุดพร้อมกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรใส่ใจตรวจทุกจุดก่อนลงชื่อรับมอบ
ใส่ความเห็น